วิธีแก้ ชาร์จ Apple Watch ในเทสล่าไม่ได้ วันนี้โจฮว่าแมนจะบอกวิธีแก้กัน! ชาร์จได้ 100%

เทสล่าไม่ได้แค่ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น แต่ยังช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วย เช่นเดียวกันกับเมื่อครั้งแรกที่เพื่อนๆได้เป็นเจ้าของเทสล่า โจฮว่าแมนเชื่อเลยว่า Adrenaline ของเพื่อนๆจะสูบฉีดถึงขีดสุด เพราะนอกเหนือจากความสวยงาม minimal ของตัวรถ โจฮว่าแมนมั่นใจว่าเพื่อนๆจะต้องตื่นเต้นที่จะลองใช้แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพื่อนๆเพียงวาง iPhone บนแผ่นชาร์จไร้สาย บูม! มันก็ชาร์จไฟได้อันตโนมัติ  โดยไม่ต้องใชสายเคเบิลใดๆ หรู ฟินสุดๆ

เพื่อนๆมั่นใจและภูมิใจกับแท่นชาร์จไร้สายของ Tesla มาก  แต่เมื่อเพื่อนๆลองชาร์จ Apple Watch ด้วยวิธีเดียวกัน มันกลับไม่ชาร์จ ตึ่งโป๊ะ!

นั่นเป็นเพราะว่า ตั้งแต่ปี 2023 เพื่อนๆ จะสามารถชาร์จ Apple Watch ได้ด้วยสายชาร์จแบบแม่เหล็กของที่ทำไว้สำหรับ Apple เท่านั้น

ซึ่งหมายความว่า หากต้องการชาร์จ Apple Watch ใน Tesla เพื่อนๆก็จะต้องเอาสายชาร์จ Apple watch เสียบเข้ากับพอร์ต USB ของรถ  แต่เมื่อเพื่อนๆลองทำ  นาฬิกาก็ยังไม่ชาร์จ  เกิดอะไรขึ้น?

สายชาร์จแบบแท่นแม่เหล็กอันเดิมที่ใช้งานได้ดีที่บ้าน กลับไม่สามารถชาร์จ Apple Watch ในรถ Tesla ของเพื่อนๆได้! ทำไมหละ? แล้วจะทำอย่างไร? เพื่อนๆควรนำรถไปที่ศูนย์บริการ Tesla หรือไม่? 

คำตอบคือ “ไม่จำเป็น” โจฮว่าแมนจะมาเล่าให้ฟัง …

อะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานี้?

เราทราบปัญหานี้จากโพสต์ Twitter ของ Sarah B ท่านหนึ่ง โพสต์ Twitter โดย Sarah B

+ กับประสบการณ์ที่เป็นเจ้าของ tesla  model X 3 Y และคลุกคลีกับการ R&D และดีไซต์ไอเทมมาให้เทสล่ากว่า 4 ปี

ทีมโจฮว่าแมนก็เข้าใจปัญหาดีและรู้ว่ามันแก้ได้ จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้ยากหรือซับซ้อนอย่างที่เพื่อนๆคิด!

สรุปง่ายๆคือ โจฮว่าพบว่ามีมาตรฐาน USB 2 แบบ ที่พยายามเชื่อมต่อกันที่นี่ -> USB และ USB-PD (โดย PD ย่อมาจาก Power Delivery)

เราทดสอบกับ Apple Watch หลายรุ่น และพบว่า Apple Watch SE 2 ไม่รองรับ PD (non-PD)  อย่างไรก็ตาม พอร์ตของ Tesla เป็นแบบ PD ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้งานร่วมกับที่ชาร์จของ Apple ได้  นั่นคือเหตุผลที่ Apple Watch SE 2 ของเพื่อนๆไม่สามารถชาร์จได้ใน Tesla!

ดังนั้น โจทย์ที่ทีมแก้ ก็คือ จะทำยังไงให้ Apple watch ที่ไม่รองรับระบบ PD สามารถได้รับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-PD ของ Tesla ได้ ??? -> ก็คือต้องใช้ตัวแปลง (นึกภาพเวลาไปเที่ยว ตปท.แล้วหัวปลั้กชาร์จ มันคนละแบบ จึงเสียบกันไม่ได้ แนวๆนั้น) 

ทางออกก็คือ?

ทีมโจฮว่าจึงได้พัฒนาหัวแปลง ที่เราตั้งชื่อมันว่า     Apple Watch Tesla Charging Kit

โดยในชุดอุปกรณ์ประกอบไปด้วย:

• อะแดปเตอร์แปลง USB-C เป็น USB-A แบบ “จ่ายไฟ” เพียงอย่างเดียว

• อะแดปเตอร์แปลง USB-C ตัวเมีย เป็น USB-A ตัวผู้

อะแดปเตอร์ขนาดพกพาสองตัวนี้สามารถแก้ปัญหาการชาร์จไฟของเพื่อนๆได้ โดย 

1. อะแดปเตอร์แบบ “จ่ายไฟเพียงอย่างเดียว” จะ แปลง USB-PD ของรถเทสล่า ให้เป็นแบบ non-PD ขนาด 12W! ซึ่งจะเข้ากันได้กับสายชาร์จ Apple Wacth 

2. ในขณะที่ปลั๊กตัวที่ 2 จะทำหน้าที่ เป็นแค่ตัวเชื่อมต่อสำหรับสายเคเบิล Type C เพื่อเชื่อมต่อกับพอร์ต Type A เท่านั้น

โอเค เก็ทละ ถ้างั้น ช่วยแนะนำวิธีใช้อุปกรณ์นี้ให้หน่อย ?

ในการชาร์จ Apple Watch ใน Tesla ของเพื่อนๆ เพียงทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้:

1. เสียบ “หัวแบบจ่ายไฟเพียงอย่างเดียว” เข้ากับพอร์ต USB-C ของ Tesla

2. เสียบหัวแปลง USB-A ตัวผู้ ให้กลายเป็น USB-C ตัวเมีย เข้ากับขั้นตอนแรก

3. ต่อสายชาร์จ Apple ที่เป็นหัว Type C เข้ากับอะแดปเตอร์ตัวที่สอง ตามที่แสดงในภาพด้านบน แล้วแปะ Apple Watch ของเพื่อนๆตามแท่นชาร์จปกติ

4. เห็นไฟสีแดงๆขึ้นไหม? โอเคเลย ในที่สุดก็ชาร์จได้แล้ว!

เพื่อนๆเห็นไหมว่าอุปกรณ์เสริมราคาแค่ $10 สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ง่ายๆเลย ไม่ต้องปวดหัวขับไปเทสล่าเซนเตอร์ให้เสียเงิน เวลา  และจริงๆ นี่ก็คือ สิ่งที่โจฮว่าตั้งเเป้าหมายไว้ เราอยากพัฒนาไอเทมต่างๆออกมา เพื่อแก้ปัญหา เพื่อทำให้ชีวิตเพื่อนๆง่ายขึ้น!

อย่างไรก็ตาม เพื่อความโปร่งใสและการอัพเดท firmware ใหม่ของระบบต่างๆ ทั้งในแอปเปิลเอง และทางเทสลล่าเอง เราอาจจะไม่สามารถทดสอบ Apple Watch ทุกรุ่น (แต่ก็จะพยายามให้ตามให้ทัน และปรับปรุงบทความให้ทันสมัยที่สุด) ดังนั้น หากเพื่อนๆเป็นเจ้าของรุ่นอื่นนอกเหนือจาก Apple Watch SE 2 ปัญหาของเพื่อนๆอาจเกิดจาก PD หรือไม่ก็ได้ สามารถแวะมาบอกเราได้ จักขอบคุณเป็นอย่างสูง!

นอกจากนี้ ก็ยังไม่ชัดเจนว่าอุปกรณ์ในอนาคตจะรองรับ PD หรือไม่ ดังนั้น ในตอนนี้ ณ ปัจจุบันนี้ ชุดอุปกรณ์นี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเพื่อนๆสำหรับการชาร์จ Apple Watch ใน Tesla